
ถ้ำนาคา แหล่งท่องเที่ยวที่คนมีความศรัทธาในเรื่องของพญานาค ต่างพากันฮือฮาเป็นอย่างมาก!
ถ้ำนาคา ความสวยงาม ที่มาพร้อมกับความเชื่อ ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
ถ้ำนาคา
ตำนานของพญานาคนั้น เป็นสิ่งที่คนไทย ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ยิ่งในแถบของภาคอีสาน จะมีความเชื่อเรื่องนี้ สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น ในความเชื่อของคนภาคอีสานคือ พญานาคนั้น อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง เป็นเทพที่คอยช่วยเหลือคน ในด้านต่าง ๆ พญานาคตามความเชื่อนั้น จะมีรูปร่างคล้ายกับ งูขนาดใหญ่ แต่มีส่วนหัวและเกล็ด ที่แตกต่างจากงู ซึ่งเราจะเห็นได้ทั่วไป ถึงงานจิตรกรรมเกี่ยวกับพญานาค ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะตามวัดนั้นเอง และในแถบของจังหวัดบึงกาฬ ที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นถิ่นพื้นที่ ที่มีตำนานเรื่องเล่า เกี่ยวกับพญานาค ในทุกพื้นที่ และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดตัวถ้ำนาคา ยิ่งทำให้คนที่มีความเชื่อและศรัทธา ในเรื่องของพญานาค ต่างพากันฮือฮาเป็นอย่างมาก
ความเชื่อเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ : มีตำนานเล่าขานมาว่า ปู่อือลือผู้เป็นเทพที่อาศัยอยู่บนสรวงสวรรค์ ถูกสาปให้กลายเป็นพญานาค ลงมาปกครองเมืองบาดาล ที่บึงโขงหลงง จังหวัดบึงกาฬ ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่ง ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นที่ที่พญานาคและมนุษย์ อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่อยู่มาไม่นาน ก็เกิดเรื่องราวอันไม่เหมาะสมเกิดขึ้น เนื่องจากบริวารของปู่อือลือ ที่เป็นพญานาคเกิดไปมีสัมพันธ์สวาทกับมนุษย์เข้า และถูกจับได้ ซึ่งเรื่องราวของทั้งคู่นั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดจารีตและฝืนธรรมชาติอย่างรุนแรง
ดังนั้นปู่อือลือ จึงได้ทำการลงโทษบริวารของตนเอง ด้วยการสาปให้กลายเป็นหินเพื่อลงโทษ ซึ่งในปัจจุบัน ยังมีความเชื่อที่ว่า บริวารของปู่อือลือที่ถูกสาปนั้น ยังคงนอนขดกาย อยู่ตรงบริเวณภูลังกาแห่งนี้ ซึ่งมีสภาพกลายเป็นหินเหมือนกับที่เราเห็น ในบริเวณถ้ำนาคาปัจจุบันนั่นเองค่ะ เท่านี้ยังไม่หมดนะคะ เพราะยังมีอีกตำนานเล่าขานกันมา ว่าหนทางของการพ้นคำสาปของพญานาคตนนี้ นั่นก็คือ บริเวณบึงโขงหลงแห่งนี้ จะต้องกลายเป็นอาณาจักรใหม่ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อกันว่า
ก่อนหน้านี้จังหวัดบึงกาฬ ยังไม่ได้เป็นจังหวัดเหมือนในปัจจุบัน พอได้สถาปนาขึ้นมาเป็นจังหวัดบึงกาฬ มันก็อาจจะหมายความได้ว่า บริเวณบึงโขงหลงแห่งนี้ ได้กลายเป็นอาณาจักรใหม่ จึงทำให้คำสาปของปู่อือลือเริ่มคลายลงนั่นเองค่ะ ซึ่งก็อาจจะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ถ้ำนาคาแห่งนี้ เริ่มปรากฏเป็นลักษณะของพญานาค ที่ชัดเจนขึ้น
ลักษณะของ ถ้ำนาคาปัจจุบัน
ถ้ำนาคา รีวิว ในครั้งนี้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เป็นสถานที่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่มีผู้คนสนใจ อยากไปเที่ยวชมกันอย่างมาก เนื่องจากบริเวณรอบถ้ำ จนถึงภายในถ้ำนั้น จะมีหินที่เป็นรูปทรง เหมือนกับงูขนาดใหญ่ ขดตัวอยู่โดยรอบ และมีส่วนหัวของงู ให้เห็นในส่วนต่าง ๆ ของถ้ำ ทั้งภายในและภายนอก เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา ได้อย่างน่าอัศจรรย์อย่างมาก แต่หากในความเชื่อของคนพื้นที่ และคนที่มีความเชื่อ ในเรื่องราวของพญานาค ก็ต่างพากันว่า น่าจะเป็นพญานาคที่ ปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้อยู่ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อไปด้วยในตัว ซึ่งหากใครที่ได้ ไปถ้ำนาคา สถานที่ที่เรานำมารีวิว สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งนี้ จะต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เหมือนต้องมนต์กับความสวยงาม และเหมือนได้เข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่ง กันเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อาจจะต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อ ของแต่ละบุคคลอีกด้วย สถานที่ดังกล่าว หากใครมีความสนใจ และอยากจะไปสัมผัสสามารถ ลงทะเบียนถ้ำนาคา และ จองคิวถ้ำนาคา กันก่อนได้ค่ะ เนื่องจากระยะทาง ที่ขึ้นไปยังถ้ำนั้น เป็นทางสูงชัน และต้องปีนไปตามป่าเขา จากจุดขึ้นชมถ้ำนาคา ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ ประมาณ 4-6 ชั่วโมง มีบันไดทั้งหมดจำนวน 20 ชุด รวมประมาณ 400 ขั้น เส้นทางตามภูเขาที่สูงชัน อย่างถ้ำนาคานี้ ถึงแม้ระยะทาง จะเท่ากับทางตรงบนท้องถนน แต่เมื่อไปอยู่บนภูเขาแล้ว ถือว่าไกลมาก ๆ ค่ะ และยิ่งบวกกับเส้นทางธรรมชาติ ที่ไม่สิ่งอำนวยความสะดวกด้วยแล้ว อาจจะทำให้เรา ไปไม่ถึงจุดไฮไลท์ก็เป็นได้ค่ะ เรียกได้ว่ามีเงินอย่างเดียว ไปไม่ถึงแน่นอนค่ะ ถ้าไม่เตรียมความพร้อมมาอย่างดี พร้อมกับแรงศรัทธา ที่เต็มเปี่ยม ฟัง ๆ ดูแล้วอาจจะดูเหมือนลำบาก ไม่ใช่น้อยจริงไหมคะ?
อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เพราะใครที่มีแรงศรัทธา และอยากขึ้นไปให้ได้ เรื่องเส้นทาง ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะทางสถานที่มีเจ้าหน้าที่ ที่จะนำพาเราขึ้นไป และแนะนำจุดต่าง ๆ ทำให้เราไปถึงที่หมาย ได้ไวกว่าเดิมนั่นเองค่ะ ส่วนเรื่องการเดินทาง หรือระยะทางนั้น ในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับร่างกายของเราล้วน ๆ เลยค่ะ ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน! ถ้าใครมีแพลนว่าจะไปเที่ยวที่นี่ อย่าลืมเตรียมความพร้อม ด้านร่างกายให้ดีนะคะ จะได้เอนจอย กับการท่องเที่ยวธรรมชาติในครั้งนี้
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับถ้ำนาคา
อำเภอบึงโขงหลง ไม่ได้มีเพียงแค่ ถ้ำนาคา ภูลังกา บึงกาฬ เท่านั้น ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ อีกมาก ที่เรานำมารีวิว ให้แล้วติดตามค่ะ
1.น้ำตกเจ็ดสี
น้ำตกเจ็ดสี เป็นน้ำตกที่อยู่ในพื้นที่ของ บ้านดอนเสียด เป็นน้ำตก ที่ยังคงความสวยงาม และอุดมไปด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง น้ำที่ตกลงมากระทบกับหิน และเป็นละอองขึ้น เมื่อถูกแสงแดดส่องผ่าน จึงทำให้เห็นเป็นสีสันต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ น้ำเจ็ดสีนั้นเอง น้ำตกที่มี 3 ชั้น เหมาะสำหรับเป็นวิวถ่ายภาพสวย ๆ หรือลงเล่นน้ำ เพื่อผ่อนคลายความร้อนได้
2.ภูทอก
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่แปลจากภาษาอีสานออกมา เป็นภาษากลางก็คือ ภูเขาที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวนั้นเอง ซึ่งจริง ๆ แล้ว ภูทอกนั้น มีทั้งภูทอกใหญ่ และภูทอกเล็ก แต่ในปัจจุบัน เปิดให้ท่องเที่ยวได้เพียงแค่ ภูทอกเล็กเท่านั้น การขึ้นไปชมวิวบนภูทอกนั้น จะต้องเดินท้าขึ้นไป เพื่อไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ ใครสายปีนเขา แนะนำให้ลองมาท่องเที่ยวที่ภูทอกน้อย กันได้เลย
3.ตลาดไทย – ลาว
ตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดที่อยู่ในตัวเมืองของบึงกาฬ ตลาดแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย ทั้งของคนไทยและของคนลาว ที่ข้ามฝั่งมาค้าขาย ภายในตลาดแห่งนี้ และมีพวกอาหารป่า ป่าแม่น้ำโขง และอื่น ๆ อีกมากมาย ให้เราได้เข้าถึง วิถีชีวิตของคนไทย – ลาว ได้เป็นอย่างมาก ในตลาดเช้าแห่งนี้ ซึ่งจะเปิดช่วงวันอังคาร – วันศุกร์ 6.00 – 12.00 น. เท่านั้นค่ะ
4.แก่งอาฮง
แก่งอาฮง หรือสะดือของแม่น้ำโขง ที่อยู่ห่างออกจากตัวเมืองประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นสถานที่ ที่เต็มไปด้วยโขดหินจำนวนมาก จึงทำให้ดูสวยงาม และเป็นจุดชมวิวชั้นดี ของจังหวัดบึงกาฬ แต่สถานที่แห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นส่วนที่แม่น้ำโขงลึกที่สุด แบบที่ไม่สามารถวัดระยะได้ ในช่วงหน้าน้ำ บริเวณพื้นที่แห่งนี้ น้ำจะไหลเชี่ยว และมีการหมุนวนของน้ำให้เห็น จึงได้ชื่อว่าเป็นสะดือของแม่น้ำโขง นั้นเองค่ะ
และสถานที่ท่องเที่ยว ที่อยู่ใกล้บริเวณของถ้านาคานั้น ยังคงมีอีกหลากหลายสถานที่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยว จะต้องปฏิบัติตามกฎกติกา ของแต่ละพื้นที่ ในการเข้าท่องเที่ยวด้วย เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ความสวยงาม ของธรรมชาติเอาไว้ได้ อย่างยาวนานนั้นเองค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในภาคอีสาน ซึ่งคงถูกใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และสายมูเตลู กันอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าใครอยากลองไปท่องเที่ยว ในช่วงเวลานี้ เราแนะนำให้ลองหาข้อมูลกันดูก่อน เนื่องจากบางสถานที่นี้ ก็จะเปิดแค่บางช่วงเท่านั้น หากไม่อยากไปแล้วเสียเที่ยว แนะนำให้ศึกษา และหาข้อมูลให้ดีกันก่อน เริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยว
นำเสนอบทความ สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคอีสาน โดย สายรุ้ง
