เที่ยวแบบธรรมชาติ

เที่ยวแบบธรรมชาติ เราจะอาสาชี้เป้าที่เที่ยวสวย ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ ไปเช็คอินกัน!!!

เที่ยวแบบธรรมชาติ เราจะพาเพื่อน ๆ ที่มีวันหยุดน้อย ๆ หรือไม่ค่อยหยุดยาว ๆ ไปเที่ยวแบบธรรมชาติกันค่ะ

เที่ยวแบบธรรมชาติ เอาใจใส่กับ คนที่รักธรรมชาติ นิดนึงนะคะ วันนี้ใครที่ชอบภูเขา และสีเขียว ๆ คือวันนี้เราจะพาไป รวมจุดเช็คอินที่เที่ยว กับบรรยากาศดี ๆ แต่ละที่ไปไม่ยาก ใช้เวลาขับรถไม่นาน

เป็นที่ ๆ ทุกคนรู้จักกันดีค่ะ แต่บางคนเคยไปแล้ว แต่อาจจะยังไปไม่ทั่ว ไม่อยากจะคุยเลยค่ะ ว่าที่ไทยเรานี่และ คือที่สุดแห่งธรรมชาติ แค่บรรยากาศและความชิวล์ ก็กินขาดแล้ว…. บอกเลยว่าห้ามพลาด! จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปชมกันเลยค่ะ

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ

ตอนนี้เราก็จะพาทุกคนไปที่ จุดหมายปลายทาง นั่นก็คือ ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย แห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ตำบลขุนแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเองค่ะ

ความรู้สึกที่ได้เห็นครั้งแรก สนุกแล้วก็ตื่นเต้นมาก ๆ ที่เหลือ เป็นหน้าที่ของนักท่องเที่ยวนะคะ ว่าจะเลือกให้ชีพจร ลงเท้าตอนไหน 

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย

แล้วตอนนี้นะคะที่ทุ่งดอกไม้ไฮเดรนเยีย จังหวัดเชียงใหม่ ที่บ้านขุนแปะ ทุ่งดอกไม้ไฮเดรนเยีย บ้านขุนแปะเป็นทุ่งดอกไม้ ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยค่ะ จะเริ่มบานตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งจะบานเต็มที่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ

ที่นี่นะคะก็เราเสียค่าเข้า เพียงแค่คนละ 30 บาท เป็นค่าดูแลค่าปุ๋ย ให้กับชาวสวน ถ้าเทียบกับที่เราได้ชมทุ่งดอกไม้สวย ๆ แบบนี้ แค่นี้สบายมากใช่ไหมคะ

ระยะเวลาที่เราเดินทาง ถ้ามาโดยรถของชาวบ้าน จะคุ้มค่ามากค่ะ อันนี้แนะนำเลย ทั้งคุ้มกับการเดินทางไป เราสามารถถ่ายภาพ คู่กับความสวยงาม ของดอกไม้ได้ อย่างใกล้ชิดค่ะ

ท่ามกลางสวนดอกไม้ ด้านหลังจะเป็นภูเขาใหญ่ และนาขั้นบันได ที่สวยงาม ไม่ว่าจะถ่ายภาพจากมุมไหน ก็สวยไปหมดเลยค่ะ รับรองว่าเอาไปลงในโซเชียล ไม่อายใครแน่นอนค่ะ ใครที่ชอบดอกไม้นะคะ ที่นี่เหมาะมากค่ะ

จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด สำหรับทุ่งดอกไฮเดรนเยีย

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย กลายมาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่คนกำลังนิยมไป และจุด ๆ นี้ถือแลนด์มาร์คที่คนเช็คอินมากที่สุดค่ะ เพื่ออวดความสวยงาม ของนาขั้นบันได สีสันจากธรรมชาติที่เขียวขจี ลดหลั่นตามความสูงชันของบรรได ล้อมรอบศูนย์พัฒนา โครงการหลวงขุนแปะด้วย

การเดินทางขึ้นไปสู่ ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่ – ฮอด มุ่งหน้าไปที่ศูนย์พัฒนา โครงการหลวงขุนแปะ ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถบริการของชาวบ้าน นั่งเข้าไปยังแปลงดอกไฮเดรนเยีย ซึ่งอยู่บนเขาได้ทันทีค่ะ

เที่ยวแบบธรรมชาติ ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน

ที่นี่มีอะไรให้น่าค้นหา

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวชอบไป “ปางอุ๋ง” ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว จะมีผู้คนหลั่งไหลไปที่นี่ เพื่อท้าทายความหนาว และสัมผัสกับคำว่าธรรมชาติจริง ๆ

ปางอุ๋ง

ที่มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 มีลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำ เป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกัน ขึ้นจนสุดลุกหูลูกตา ปางอุ๋ง ตั้งอยู่ในโครงการสวนป่า

ในพระราชดำริปางตอง 2 แนะนำว่าถ้าจะไปให้ฟิน ต้องไปช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี ถือเป็นช่วงหน้าเทศกาล ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวปางอุ๋ง และในส่วนของที่พัก

มีให้บริการทั้งแบบบ้านพัก และนอนเต็นท์ และอีกอย่าง ที่เราต้องบอกให้เตรียมไปด้วย คือ เสื้อกันหนาว อุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ เช่น แว่นกันแดด, ครีมกันแดด, โลชั่น, ถุงเท้า, ถุงมือ, ผ้าพันคอ, กล้องถ่ายรูป พวกนี้ต้องมีติดกระเป๋าไปนะคะ

จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด สำหรับปางอุ๋ง

เที่ยวแบบธรรมชาติ

หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณ ด้านหน้าปางอุ๋ง มีลักษณะเป็น แหล่งชุมชนขนาดเล็กระยะทาง 300 เมตร จะมีร้านที่ต้องห้ามพลาดแวะชิมไม่ว่าจะเป็น

  • ลุงปาละ คอฟฟี่เฮ้าส์ ปางอุ๋ง
  • ร้านครัวไทยใหญ่
  • ร้าน อิ๊มอิ่ม ปางอุ๋ง

ถ้าใครไปแล้วคิดว่าจะหาไม่เจอ ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะเส้นทางสายนี้คล้าย ๆ กับถนนคนเดินในเมืองใหญ่ ๆ ดูง่ายเป็นเส้นตรง และยาวตลอดแนวค่ะ

การเดินทางขึ้นไปสู่ ปางอุ๋ง จากแม่ฮ่องสอน ให้ไปที่ตลาดสายหยุด ถามหาคิวรถปางอุ๋ง จะมีรถสองแถวประจำทาง ขึ้นไปยังปางอุ๋ง ( บ้านรวมไทย ) เป็นสาย แม่ฮ่องสอน-ห้วยมะเขือส้ม พอรู้เส้นทางดังนี้ ก็สามารถเข้าสู่ปางอุ๋ง ได้อย่างง่ายดาย

เที่ยวแบบธรรมชาติแม่กำปอง ตั้งอยู่ที่ไหน แล้วชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา?

แม่กำปอง  ตั้งอยู่ในกิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่  เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลาง ป่าเขาเขียวขจี มีลำธารใสเย็นไหลพาดผ่าน ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง

แม่กำปอง

ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ ตามชื่อของดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง การเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านแม่กำปอง สำหรับนักท่องเที่ยว ก็มีบริการที่เป็นแบบเป็นโฮมสเตย์ ที่นี่เหมาะกับการท่องเที่ยว ในช่วงหน้าฝน

ถึงฝนจะตกลงมาอยู่บ่อยครั้ง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา คือความเงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนน้อย และอากาศที่เย็นตลอดปี ของหมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ที่คุณสามารถเดินดู วิถีการใช้ชีวิต ของชาวบ้านได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อประมาณ 100 กว่าปี

ชาวบ้านส่วนใหญ่ อพยพมาจากอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ เลยตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร หมู่บ้านที่อยู่ ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน มันเป็นสิ่งที่ดึงดูด ให้นักท่องเที่ยว มาที่นี่แบบไม่ขาดสาย น้ำตกของที่นี่

อาจจะไม่ใช่น้ำตก ที่ใหญ่ตระการตามากมายนัก แต่สำหรับที่เที่ยวแบบธรรมชาติ ที่ได้บรรยากาศและความเย็นสดชื่นแบบนี้ ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้วค่ะ ด้านข้างของน้ำตก มีบันไดที่จะนำพาคุณ ไปยังต้นน้ำของน้ำตกได้

ซึ่งจะค่อนข้างลื่น และสูงชันทีเดียว ระวังด้วยนะคะ ใครที่พาลูกเล็กเด็กแดงไปด้วย ควรระวังให้มาก ๆ

จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด สำหรับบ้านแม่กำปอง

โฮมสเตย์แม่กำปอง

-ร้านกาแฟชมนก ชมไม้
-ระเบียงวิวคาเฟ่ แม่กำปอง
-โครงการหลวงตีนตก
-วัดกันธาพฤกษา ( วัดแม่กำปอง )
-น้ำตกแม่กำปอง

การเดินทางขึ้นไปสู่ บ้านแม่กำปอง

สำหรับใครที่เดินทาง แบบไม่มีรถ มี 2 ทางเลือกค่ะ คือเช่ารถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ และใช้รถโดยสารสาธารณะ มีรถตู้โดยสารสาธารณะ ขึ้นที่สถานีขนส่งช้างเผือก สายเชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยมี 2 รอบ เดินทางเข้าสู่ หมู่บ้านแม่กำปอง ทุกวัน